เมื่อเข้าสู่ห้องแทงไพ่ เสือมังกร แล้ว คุณจะเลือกได้ว่าจะแทงเลยหรือนั่งดูไปก่อนเพื่อดูเค้าไพ่ก่อนก็ได้
- คุณเลือกเลยว่าจะลงเดิมพันที่ช่องไหน และจำนวนเท่าไหร่ โดยกดเลือกชิปจำนวนที่ต้องการ เพื่อเลือกวางลงในช่องเสือ มังกร เสมอ หรือแบบอื่นๆ
- ในแต่ละตาจะมีเวลานับถอยหลังอยู่ที่ประมาณ 25-50 วินาที ก่อนที่จะเปิดไพ่ ดังนั้นดูเวลานับถอยหลังให้ดี ถ้ามีเวลาเหลือน้อยแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ ก็รอลงเดิมพันในรอบถัดไป เพราะเกมนี้ไม่ได้บังคับว่าต้องลงเดิมพันทุกรอบ
- ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ฝ่ายเสือ และฝ่ายมังกร ฝ่ายละ 1 ใบ เมื่อเวลานับถอยหลังสิ้นสุด ไพ่จะถูกเปิดออก ซึ่งถ้าคุณวางเดิมพันได้ถูกช่องก็จะได้อัตรารางวัลไปตามที่กำหนด แต่ถ้าทายผิดก็จะเสียชิปเดิมพันนั้นไปเลย
สำหรับการแทงเดิมพันไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้ว แต่ถ้าหน้าไพ่เปิดออกมาทั้ง 2 ฝ่ายเกิดเสมอกันขึ้นมา เกมจะหักเงินเดิมพันของคุณแค่ครึ่งเดียว
เช่น คุณเลือกวางเดิมพันฝ่ายมังกรที่ 500 บาท แต่หน้าไพ่เปิดมาเสมอกัน เกมก็จะหักเงินไป 250 บาท และคืนให้กับคุณ 250 บาท
- เลือกแทงฝั่งไหนมีโอกาสชนะสูงกว่ากัน?
เกมไพ่เสือมังกรมีการคำนวณ RTP (Return to Player) หรือค่าสถิติการออกรางวัลว่าฝ่ายไหนมีโอกาสชนะมากกว่ากัน โดยแบ่งออกเป็น
- ฝ่ายเสือ (Tiger) และมังกร (Dragon) มี RTP อยู่ที่ 27%
- เสมอกัน (Tie) มี RTP อยู่ที่ 17%
- การเดิมพันอื่นๆ ได้แก่ คู่ คี่ ดำ แดง สูง ต่ำ มี RTP อยู่ที่ 31%
ดังนั้นพอจะสรุปได้ว่าโอกาสการชนะของการเดิมพันที่มังกร หรือเสือ มีโอกาสชนะรางวัลได้บ่อยที่สุด รองลงมาคู่เดิมพันรูปแบบต่างๆ และโอกาสการเสมอกันมีไม่บ่อยมาก
ถ้าคุณเคยเล่นบาคาร่ามาก่อน ต้องบอกเลยว่าเกมเสือมังกรก็ให้ความสนุกและท้าทายไม่แพ้กันเลย แถมมีสูตรเสือมังกรและยังใช้เวลาเล่นในแต่ละตาที่สั้นกว่า และเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำให้คุณสามารถทำเงินได้เร็วกว่า ด้วยกการเดาหน้าไพ่เพียงใบเดียวเท่านั้น
แต่ในการเล่นเกมไพ่ เสือมังกร สิ่งหนึ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญนั่นคือ วิธีการเดินเงินที่มีแบบแผนชัดเจน ควรวางแผนเอาไว้ว่าจะเล่นด้วยงบเท่าไหร่ เอากำไรเท่าไหร่ หรือเสียเท่าไหร่ในแต่ละครั้งที่เล่น เพื่อกำหนดแผนการเล่นของคุณ ให้ทำกำไรได้ตามเป้าหมายและไม่สูญเสียเงินเดิมพันไปจนหมด